หัวข้อกระทู้ : ส่งพระชินรา กรุบึงสามพัน เนื้อแดงทับทิมสยาม ยอดคงกะพัน นักเลงรุ่นเก่าแขวนเดี่ยว ส่งประกวดที่อุตรดิตถ์ พร้อมใบประกาศ และประวัคิ
ผู้ตั้งกระทู้ : Rambo_Thaiตั้งกระทู้เมื่อ : 18 ม.ค. 56 - 20:08:55
รายละเอียด



ส่งพระชินราช กรุบึงสามพัน เนื้อแดงทับทิมสยาม แดงๆแบบนี้ ไม่ค่อยจะพบได้ง่ายๆ ส่วนมากจะเห็นเป็นสีหม้อใหม่และ สีดอกพิกุล สุดยอดคงกะพัน นักเลงรุ่นเก่าแขวนเดี่ยว ส่งประกวดที่อุตรดิตถ์ พร้อมใบประกาศ ที่ 3 เท่านั้น ผมยังข้องใจในการตัดสิน พระชินราช บึงสามพัน องค์นี้อยู่เลยเพราะ ผมเห็น สภาพ ที่ 1 และที่ 2 แล้ว ครับ ชม ประวัคิ กันได้เลย ครับ

พระบึงสามพันเป็นพระกรุเก่าที่รู้จักกันมาเนิ่นนานแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวงการพระเครื่อง ชื่อเสียงเรียงนามด้วยความคงกระพันชาตรีนั้นกระฉ่อนมานานเต็มที่ ถ้าจะเปรียบเป็นนักเลงแล้วก็หาตัวเทียบยาก บารมีแผ่กว้างไปไกลหลาย ๆ บางทีเดียว นักเลงหน้าใหม่กระจอกงอกง่อย อือฮือไม่ขึ้น ยากที่ใครจะดับรัศมีลงได้

นักสะสมพระเครื่องรุ่นเก่ารู้จักพระกรุนี้ดี นักสะสมรุ่นใหม่ก็ไม่ควรจะมองข้ามความสำคัญของพระกรุนี้ไปเสีย และถ้าหากใครก็ตามที่ได้ทุ่มตัวเข้าสู่วงการพระเครื่องแล้ว และไม่รู้จักพิมพ์นี้ก็เห็นทีจะต้องใช้เวลาอีกมาก กว่าจะเดินยืดอกอย่างสง่าผ่าเผยในสนามได้

ผู้เขียนเองเคยได้สนทนากับนักเลงพระอาวุโสผู้หนึ่งถึงเรื่องพุทธานุภาพของพระกรุนี้คุณลุงผู้นั้นกล่าวยืนยันเต็มปากเต็มคำว่า \"เรื่องหนังเหนียวละก็ยกให้บึงสามพันเขาไป พระกรุอื่นที่ว่าเหนียว ๆ นั้น ลองเอามายืนซัดกันสักตั้งปะไร ดูทีว่าใครจะแน่กว่ากัน\" ก็เห็นจะไม่เป็นที่สงสัยละว่าทำไมคนเก่าคนแก่จึงยกย่องพระกรุนี้กันนัก

ท่านผู้อ่านอาจจะข้องใจว่า เอ! เมื่อพระกรุนี้ดังจริง แน่จริง ทำไมไม่มีใครเขาเอามาแขวนกันให้ดาษดื่นกันละ? ในข้อนี้ถ้าท่านรู้จักพระพิมพ์นี้จริงก็เห็นจะหาคำตอบไม่ได้ยากนัก เพราะความนิยมในการพก, ห้อย, หรือแขวนพระเครื่องติดตัวนั้นย่อมขึ้นอยู่กับขนาดขององค์พระความงดงามในพุทธศิลป์และน้ำหนักเป็นประการสำคัญ ส่วนพุทธคุณนั้นแม้จะเป็นแกนกลางในการพิจารณาก็ตามแต่ปัจจัยต่าง ๆ ตามที่กล่าวมาแล้วย่อมมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของผู้ใช้อยู่มาก เมื่อพระบึงสามพันมีขนาดค่อนข้างเขื่อง แม้จะมีชื่อเสียงมากก็ตามความนิยมในการพกพาก็ย่อมลดลงเป็นธรรมดา นอกเสียจากผู้นิยมที่ศรัทธาแรงกล้าจริง ๆ และเขาก็จะไม่ยอมปลดออกจากคอเช่นกัน

ได้มีปรมาจารย์พระเครื่องหลายท่านได้เขียนเรื่องราวเกี่ยวกับพระกรุนี้ไว้และระบุว่าพระบึงสามพันเป็นพระเครื่องของจังหวัดสุพรรณบุรีก็ไม่ได้ให้รายละเอียดอะไรไว้อีก ทั้งที่ผู้เขียนทราบดีว่า พระพิมพ์นี้เป็นพระเครื่องของเมืองพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ แต่ก็ต้องพิจารณาหาหลักฐานกันก่อนว่าทำไมจึงมีผู้ระบุไว้เช่นนั้นผู้เขียนได้พยายามศึกษาหนังสือเกี่ยวกับพระกรุต่าง ๆ ของจังหวัดสุพรรณบุรี ก็ไม่มีผู้ใดเขียนยืนยันไว้ ฉะนั้นความเข้าใจในเรื่องแหล่งต้นกำเนิดของพระพิมพ์นี้อาจคลาดเคลื่อนก็เป็นได้

ทำไมพระพิมพ์นี้จึงมีชื่อว่า บึงสามพัน นี่ก็เป็นปัญหาที่จะต้องศึกษา ตามความเข้าใจโดยทั่วไปนั้นพระกรุเก่าที่ไม่มีผู้ใดทราบประวัติความเป็นมานั้น เมื่อถูกขุดค้นพบ ณ ที่ใดก็มักจะขนานนาม สถานที่หรือชื่อของบริเวณนั้น ๆ แทนชื่อพระ พระบึงสามพันก็อาจถูกขนานนามตามนัยดังกล่าวนี้เช่นกัน

แต่เราต้องมาพิจารณาดูอีกว่า บึงสามพันนี้เป็นชื่อหนึ่งชื่อใดของสถานที่ใดในเขตจังหวัดสุพรรณบุรีหรือเปล่า ซึ่งผู้เขียนเชื่อว่า คงไม่มีสถานที่ใดชื่อเช่นนี้แน่ จะมีก็แต่ชื่อแม่น้ำเก่าในประวัติศาสตร์ที่มีลักษณะใกล้เคียงกัน แต่ความคล้ายคลึงจะถือว่าเป็นข้อยุติว่า เหมือนกันนั้นไม่ได้ อาจจะเป็นคนละเรื่องคนละราวไปเลยก็ได้ และถ้าสถานที่นี้ไม่มีในเขตจังหวัดสุพรรณบุรีและไม่มีใครสามารถยืนยันการขุดค้นพบได้ที่จังหวัดสุพรรณบุรี ก็น่าจะเป็นข้อยุติได้ว่าพระพิมพ์นี้มิใช่พระเครื่องของจังหวัดสุพรรณบุรีอย่างแน่นอน

เท่าที่ทราบพระเครื่องพิมพ์นี้ ได้ถูกขุดพบในเขตอำเภอพิชัยก่อน และเป็นเวลานานมาแล้ว เนื้อพระส่วนใหญ่เป็นเนื้อกระเบื้องสีแดง มีความแกร่งมาก ด้านหลังขององค์พระมักจะแบนราบและมีรอยลายมือกดตอนพิมพ์พระปรากฏอยู่ ส่วนที่ปรากฏเป็นรอยกาบหมากหรือรอยตอกกดประทับลึกเป็นร่องนั้นมีน้อย อย่างไรก็ตาม ประวัติการขุดค้นพระบึงสามพันที่อำเภอพิชัยนี้ ผู้เขียนขอรับว่าไม่ทราบรายละเอียดเท่าที่ควร เพราะไม่มีโอกาสได้เดินทางไปศึกษากับผู้รู้ในท้องถิ่น แต่ก็เป็นที่ยืนยันได้แน่ชัดว่า พระพิมพ์กรุนี้ วงการพระเครื่องรู้จักมาไม่ต่ำกว่า 50-60 ปีแล้ว ประมาณปี พ.ศ. 2498 ก็ได้มีชาวบ้านขุดพบพระเครื่องพิมพ์นี้อีก ตามประวัตินั้นชาวบ้านเป็นผู้ขุดพบโดยได้รับคำบอกเล่าตามความฝัน การขุดพบครั้งนี้นับว่าได้พระเป็นจำนวนมาก ประมาณกันว่ามีมากถึง 2 โอ่งแดงใหญ่ ปริมาณก็คงจะมีจำนวนนับหมื่น และเหตุการณ์ที่คนทั่วไปจำได้แน่นอนก็คือ ผู้ขุดได้นำพระเครื่องกรุนี้ใส่บุ้งกี๋มาเร่ขายที่สถานีรถไฟพิชัย ในราคาองค์ละ 5 บาท ใครสนใจมาเลือกได้ตามใจชอบ เนื้อพระที่ถูกพบครั้งหลังนี้เป็นของวัดพญาแมน ในเขตบ้านโคน อำเภอพิชัย เนื้อพระมีหลายประเภท ส่วนใหญ่เป็นเนื้อดินเผาผสมว่าน ลักษณะองค์พระจะหนาด้านหลังจะอูมเป็นหลังเต่า เนื้อพระกรุนี้ค่อนข้างจะหยาบและยุ่ย ไม่แข็งแกร่งเหมือนกรุในเขตอำเภอพิชัย
พระบึงสามพันนี้มีหลายขนาดและหลายพิมพ์ ส่วนใหญ่จะเป็นพระปางมารวิชัย ประทับนั่งบนบัวคว่ำบัวหงายภายในซุ้มเส้นรอบองค์ ลักษณะบัวนั้นโดยทั่วไปเรียกบัวก้างปลา สำหรับเส้นซุ้มนั้นน่าจะถอดเค้ามาจากซุ้มเรือนละม้ายกับองค์หลวงพ่อพุทธชินราชมาก แต่ก็มีอิทธิพลของศิลปยุคอู่ทองผสมอยู่ด้วย คือพระพาหาอ่อนช้อย ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ประการหนึ่งของพระเครื่องในยุคนี้ ชาวบ้านโดยทั่วไปเชื่อว่า พระบึงสามพันนี้ก็คือพระพุทธชินราชนั่นเอง โดยผู้สร้างได้ประยุกต์เอาศิลปในยุคต่อ ๆ มาผนวกเข้าไว้ เป็นที่น่าสังเกตอย่างหนึ่งว่า พระเครื่องต่าง ๆ ที่มีเส้นคู่ปรากฏอยู่ด้วยกัน มักจะอยู่ทางพิษณุโลก และบริเวณใกล้เคียงเป็นส่วนมาก ทำนองประยุกต์ให้เข้ากันแบบอย่างของหลวงพ่อพุทธชินราชก็เป็นได้ ตัวอย่างเช่น พระซุ้มเส้นคู่ กรุวัดโพธิ์ฯ (โรงทอฯ) พระเครื่องบางพิมพ์จากกรุวัดเขาสมอแครง เหล่านี้เป็นต้น

ขอให้ท่านผู้อ่านโปรดเข้าใจอีกประการหนึ่งว่า พระบึงสามพันนี้มิได้มีเฉพาะพิมพ์บนฐานบัวในซุ้มเส้นคู่เท่านั้น แต่ยังมีพิมพ์อื่น ๆ รวมอยู่ด้วย เช่น ปางลีลาเนื้อดินเผา และนางสามพี่น้องเนื้อดินเผา แต่พระปางลีลานั้นคนนิยมกันมากและออกจะหายากกว่าพิมพ์อื่น ๆ
พระสามพี่น้องนั้นมิได้ถูกพบที่กรุนี้กรุเดียว ในเขตจังหวัดพิษณุโลก กำแพงเพชร และสุโขทัยก็มีการขุดพบด้วยเหมือนกัน แต่พระนางสามพี่น้องของกรุวัดพญาแมนนี้ โดยส่วนใหญ่แล้วเนื้อพระจะละเอียดมีความหนาและแกร่ง มีทั้งสีแดง และสีกลีบจำปา ไม่เหมือนกับเนื้อพระบึงสามพัน และพิมพ์ปางลีลาโดยทั่วไป ฉะนั้นถ้าท่านผู้อ่านพบพระพิมพ์นางสามพี่น้องที่ใดก็ขอได้โปรดพิจารณาความหนาขององค์พระด้วย ถ้าองค์บาง ๆ ละก็คงจะเป็นพระของกรุอื่นแน่ เพราะพระพิมพ์กรุนี้องค์หนา 1-2 ซม. ทีเดียว พุทธานุภาพของพระเครื่องกรุนี้นั้น น่าทึ่งมากมาตั้งแต่สมัยที่พระกรุนี้ขุดขึ้นใหม่ ๆ พระบึงสามพันเป็นพระกรุที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งกรุหนึ่ง นักสะสมพระเครื่องรุ่นใหม่ ๆ ก็คงพอจะเสาะหาไว้ใช้ได้ไม่ยาก สนนราคาก็ไม่แพงเลย ส่วนพุทธาคุณนั้นโด่งดังเหลือหลาย โดยเฉพาะในด้านคงกระพันชาตรี ปรากฏการณ์ต่างๆ มีมามากแล้ว ผู้ที่อยู่ในเขตจังหวัดอุตรดิตถ์ พิษณุโลก และสุโขทัย ย่อมตระหนักดีในเรื่องพุทธคุณ ด้านเหนียว คงกะพันชาตรี ของพระกรุนี้ เป็นอย่างดี ทีเดียว
พบเห็นที่ไหน เก็บไว้เถอะ ท่านมีแต่ได้กับได้ พระแท้พระเก๊ก็แยกแยะง่าย อีกทั้งราคาค่านิยมเรา ๆ ท่านๆ ยังพอหาเช่าได้โดย ราคา ไม่หนักใจ และ พระกรุองค์ใหญ่ๆ ปัจจุบัน มี ความนิยม ขึ้นคอกันมาขึ้น ตั้งแต่กระแสความนิยมของ พระจตุคามรามเทพ ซาลง ครับ

ความคิดเห็นที่ 1
ผู้แสดงความคิดเห็น :
Rambo_Thai
แสดงความคิดเห็นเมื่อ: 18 ม.ค. 56 - 20:09:49


ความคิดเห็นที่ 2
ผู้แสดงความคิดเห็น :
Rambo_Thai
แสดงความคิดเห็นเมื่อ: 18 ม.ค. 56 - 20:10:45


ได้ใบประกาศที่ 3 เท่านั้น ครับ
ความคิดเห็นที่ 3
ผู้แสดงความคิดเห็น :
Rambo_Thai
แสดงความคิดเห็นเมื่อ: 18 ม.ค. 56 - 20:11:53


พระหลังอูมและ หนามาก ครับ
ความคิดเห็นที่ 4
ผู้แสดงความคิดเห็น :
Rambo_Thai
แสดงความคิดเห็นเมื่อ: 18 ม.ค. 56 - 20:12:48


ตลับเงิน สั่งทำพิเศษ ครับ
ความคิดเห็นที่ 5
ผู้แสดงความคิดเห็น :
manitou
แสดงความคิดเห็นเมื่อ: 18 ม.ค. 56 - 22:05:56

ข้อมูลดีมีประโยชน์ไม่ค่อยได้เห็นพี่ Rambo_Thai นานละขอบคุณมากครับ
ความคิดเห็นที่ 6
ผู้แสดงความคิดเห็น :
Rambo_Thai
แสดงความคิดเห็นเมื่อ: 19 ม.ค. 56 - 16:30:41

ยินดีที่เยี่ยมชม และเข้ามาทักทาย ครับ คุณ manitou

ท่านต้องสมัครสมาชิกก่อนถึงจะมีสิทธิ์แสดงความคิดเห็นในกระดานนี้ได้


สมัครสมาชิกใหม่ คลิ๊กที่นี่ได้เลย ! ! ฟรี ! ! ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น