หัวข้อกระทู้ : หลวงปู่พิมพา วัดหนองตางู
ผู้ตั้งกระทู้ : Banchaseesangaตั้งกระทู้เมื่อ : 03 ต.ค. 54 - 13:07:00
รายละเอียด


หลวงปู่พิมพาเป็นคนสนใจการเรียนตั้งแต่เด็ก อายุประมาณ 17 ปีได้เรียนวิชาอาคมต่างๆจากอาจารย์สา และอาจารย์โสภา คนเฒ่าคนแก่บ้านวังกระชอน และยังเรียนเรื่องสมุนไพรใบยาแผนโบราณรักษาผู้ป่วยด้วย และท่านยังได้เรียนวิชาอาคมกับเกจิอาจารย์ชื่อดังอีกหลายท่าน ดังนี้

หลวงพ่อเฮง วัดเขาดินใต้ เป็นอุปัชฌาย์ด้วย (หลวงพ่อเฮงเป็นพระเกจิอาจารย์ที่เชี่ยวชาญเรื่องคาถาอาคม และเป็นต้นตำหรับวัตถุมงคลงาแกะสลักที่เลื่องชื่อ รัชกาลที่ 5 เคยแวะสนทนาธรรมกับท่านที่วัดและนิมนต์ร่วมงานราชพิธีหลายครั้ง และแต่งตั้งให้เป็นพระครูชั้นพิเศษและพระอุปัชฌาย์ทั่วประเทศ)
หลวงพ่อพวง วัดหนองกระโดน อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ มีชื่อเสียงทางด้านอยู่ยงคงกระพันชาตรี
หลวงพ่อเคลือบ วัดหนองกระดี่ อำเภอทับทัน จังหวัดอุทัยธานี วาจาศักดิ์สิทธิ์ เสกเหล้าจืด ปัจจุบันยังมีผู้บนบานสารกล่าวท่านด้วยสุราขาวกับมะขามเปี๊ยก ได้ดังใจ
หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์ อำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ เกจิชื่อดังของนครสวรรค์ หลวงปู่พิมพาได้ศึกษาการลงตะกรุด มีดหมอ รวมทั้งเวทย์มนต์ต่างๆ ถึง 5 พรรษา ศิษย์ร่วมรุ่นที่รู้จักกันดีคือ หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม จังหวัดชัยนาท (ดังประวัติของหลวงพ่อกวยที่กล่าวถึงหลวงปู่พิมพาไว้)
หลวงพ่อยี วัดดงตาก้อนทอง อำเภอบางกระทุ่ม จังหวัดพิษณุโลก เกจิชื่อดังเมืองพิษณุโลก วิชาอาคมขลังและอิทธิฤทธิ์มากอีกองค์หนึ่ง เสกข้าวสารให้เป็นทอง พ.อ.ปิ่น มุทุกันต์ อธิบดีกรมศาสนา(สมัยนั้น)กับ นายสัญญา ธรรมศักดิ์ นายกพุทธสมาคมแห่งประเทศไทย (สมัยนั้น) ได้เดินทางไปพิสูจน์ถึงวัด เมื่อ 29 มิถุนายน 2508 และยอมรับว่ามีจริง ท่านมรณภาพเมื่อ 10 มิถุนายน 2515 อายุ 106 ปี
หลวงพ่อดี วัดหัวถนน อำเภอท่าตะโก จังหวัดนครสวรรค์
หลวงพ่อกบ วัดเขาสาริกา อำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี
และยังได้เข้าศึกษาพระธรรม ณ วัดระฆังโฆสิตาราม สมัยประมาณ ปี พ.ศ. 2484 สมัยนั้นน่าจะเป็นหลวงปู่นาค รวมทั้งหลวงพ่อจ้อยก็เคยไปศึกษาที่นั้นเช่นกัน (จากประวัติหลวงพ่อจ้อยที่กล่าวถึง) จนจบปริเฉท 9 และเข้าปฏิบัติวิปัสสนา กับท่านเจ้าคุณสังฆมนตรี วัดมหาธาตุ อีก 2 พรรษา ท่านยังได้ออกธุดงค์ เพื่อจาริกปฏิบัติธรรม ไปถึงอีสาน เหนือ เลยไปถึงประเทศลาว และจีน
ประสบการณ์ที่เล่าต่อๆกันมาของหลวงปู่นั้นมีมากมายพอสรุปได้ดังนี้
1.แคล้วคลาดประมาณปี 50 มีการกระชากสร้อยที่ร้านค้าในหมู่บ้านจิกลาด หมู่ที่ 2 ตำบลหนองตางู เจ้าของเกิดการต่อสู้คนร้ายยิงด้วยปืนแต่ไม่ดัง จนสามารถจับโจนได้สามีสวมพระสมเด็จปิดทอง ส่วนภรรยาสวมพระผงหยดน้ำ ปี2534 ตำรวจอำเภอบรรพตพิสัยทุกคนรู้ดี

2.อยู่ยงคงกระพัน นายลือ บ้านหนองตางู แขวนเหรียญเสมารุ่นแรก 2506 ถูกรอบยิงด้วยปืนเอ็ม 16 แต่ไม่ระคายผิว ปัจจุบัน นายลือ ยังมีชีวิตอยู่ ดูแลห้องน้ำวัดหนองตางู

3.ย่นระยะทาง เรื่องย่นระยะทางนี้มีหลายเหตุการณ์ เช่นสมัยก่อนเป็นป่าต้องใช้เดินรับกิจนิมนต์ทำบุญต่างหมู่บ้านหลวงปู่จะให้ลูกพระไปก่อน ท่านจะตามไปที่หลังแต่พ่อลูกพระไปถึงหลวงปู่นั่งรอตั้งนานแล้ว หรือเมื่อปี่ 2527 รับกิจนิมนต์ที่อำเภอขาณุฯ กำแพงเพชร รถมารับพระท่านจะให้พระลูกวัดไปก่อน แต่ตัวท่านยังทำกิจไม่เสร็จ แต่ปรากฏว่าพอไปถึงที่บ้านงานหลวงปู่ไปถึงแล้ว ถามท่านก็ยิ้มๆ

4.วาจาสิทธิ์ หลวงปู่วาจาศักดิ์สิทธิ์ มีเรื่องเล่ามากมายเกี่ยวกับวาจาศักดิ์สิทธิ์ ท่านพูดอะไรมักจะเป็นอย่างนั้น

5.รู้เหตุการณ์ล่วงหน้า เมื่อประมาณ ปี 2539 มีโยมจากกรุงเทพฯมากราบนมัสการ แล้วจะลากลับ หลวงปู่บอกว่าอย่าพึ่งกลับให้อยู่ต่ออีกหน่อย ผ่านไปประมาณ ครึ่งชั่วโมงหลวงปู่บอกให้กลับได้ พอไปถึงบริเวณ 4 แยกโพธิ์ทะเลมีรถชนกันมากมายถึงประมาณ 10 คันบริเวณกลาง 4 แยก มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ถ้าหลวงปู่ไม่บอกให้อยู่ก่อนอาจประสบอุบัติเหตุได้

6.เมตรามหานิยมหลวงปู่มีลูกศิษย์เป็นดารานักร้องมากมายเพราะเมตรามหานิยมนั้นเอง เมตราจิตสูงสมัยก่อนเป็นป่ามีสัตว์ดุร้ายมากเช่น เสือ จระเข่ ช้าง สัตว์เหล่านั้นหลวงปู่ทำให้สัตว์เชื่องได้

7.เสกกระสุนป้องกันหมู่บ้านได้ สมัยก่อนโจรชุกชุมมาก มีโจรจะมาปล้นหมู่บ้านหลวงปู่เสกลูกกระสุนยิงไปรอบหมู่บ้านจนโจรที่ปล้นหาทางออกหมู่บ้านไม่ได้จนโดนจับได้ ยังมีอีกมากมาย เช่น ท่านสามารถถอดจิตไปคุยกับเกจิอาจารย์หลายๆท่านในรุ่นเดียวกับท่าน หายตัวหาไม่เจอ และตายแล้วฟื้น


เปิดไว้ 2,000 บาท โทร 0848202661 รับประกันแท้เก๊คืนเต็ม

ความคิดเห็นที่ 1
ผู้แสดงความคิดเห็น :
Banchaseesanga
แสดงความคิดเห็นเมื่อ: 03 ต.ค. 54 - 18:24:26


ด้านหลัง
ความคิดเห็นที่ 2
ผู้แสดงความคิดเห็น :
Banchaseesanga
แสดงความคิดเห็นเมื่อ: 03 ต.ค. 54 - 18:29:00


หลวงปู่พิมพา เดิมชื่อ พิมพา นามสกุล สาริกิจ เป็นบุตร นายสิงห์ นางแถม สาริกิจ เกิดวันพฤหัสบดี ที่ 22 เดือน กรกฎาคม 2452 ตรงกับ ขึ้น 9 ค่ำ เดือน 8 ปีระกา มีพี่น้องท้องเดียวกันทั้งหมด 10 คน หลวงปู่เป็นคนที่ 7 ถือกำเนิดที่ บ้านท่ามะกูด ตำบลวังเมือง อำเภอทับทัน จังหวัดอุทัยธานี ต่อมาได้ย้ายตามบิดามารดามาอยู่ที่บ้านวังกระชอน ตำบลหูกวาง อำเภอบรรพตพิสัย จังหวัดนครสวรรค์ อายุ 7 ขวบได้ศึกษาเล่าเรียนที่โรงเรียนบ้านวังกระชอน ตำบลหูกวาง อำเภอบรรพตพิสัย จังหวัดนครสวรรค์ ช่วงนั้นครอบครัวยากจนมากมีอาชีพทำไร่ ทำนา ต้องช่วยเหลือตนเอง จนจบชั้น ประถมศึกษาปี่ที่ 4 ต้องออกมาช่วยครอบครัวทำไร่ ทำนา
อายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ ได้อุปสมบททดแทนบุญคุณบิดามารดา ณ วัดเขาดินใต้ อำเภอบรรพตพิสัย(ในขณะนั้นเป็นอำเภอบรรพตพิสัย ปัจจุบันเป็นอำเภอเก้าเลี้ยว) จังหวัดนครสวรรค์ เมื่อ 3 พฤษภาคม 2472 เวลา 07.00 น. โดยมีพระครูพิสิษฐสมถคุณ หรือหลวงพ่อเฮง เป็นอุปัชฌาย์ หลวงปู่ได้ตั้งปณิธานไว้ว่าเมื่อได้บวชแล้ว ถ้าศีรษะไม่ล้านถึงท้ายทอยจะไม่ยอมลาสิขาบทพรรษาแรกท่านได้จำพรรษาที่วัดวังกระชอน และเกิดป่วยหนักเอาชีวิตแทบไม่รอด จนพ่อแม่ญาติพี่น้องขอร้องให้สิขาบท ออกมารักษาตัวแต่ท่านไม่ยอม ท่านว่าถ้าตายก็ยอมตายในผ้าเหลือง
ความคิดเห็นที่ 3
ผู้แสดงความคิดเห็น :
Banchaseesanga
แสดงความคิดเห็นเมื่อ: 03 ต.ค. 54 - 18:29:51


ผู้ที่ศรัธาต่างหลั่งใหลมา
ความคิดเห็นที่ 4
ผู้แสดงความคิดเห็น :
Banchaseesanga
แสดงความคิดเห็นเมื่อ: 03 ต.ค. 54 - 18:30:18


สังขารไม่เน่าเปื่อย
ความคิดเห็นที่ 5
ผู้แสดงความคิดเห็น :
Banchaseesanga
แสดงความคิดเห็นเมื่อ: 03 ต.ค. 54 - 18:32:23

มีองค์เดียวครับช้าหมดไม่มีของอีกแล้วนะครับ
ความคิดเห็นที่ 6
ผู้แสดงความคิดเห็น :
Banchaseesanga
แสดงความคิดเห็นเมื่อ: 19 ต.ค. 54 - 17:03:16

สามารถเข้าดูสินค้าอื่นได้ครับ
http://prasiamgroup.myreadyweb.com/

ท่านต้องสมัครสมาชิกก่อนถึงจะมีสิทธิ์แสดงความคิดเห็นในกระดานนี้ได้


สมัครสมาชิกใหม่ คลิ๊กที่นี่ได้เลย ! ! ฟรี ! ! ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น